เชื่อไหมว่าเมื่อคุณได้กลิ่นอะไรสักครั้งหนึ่งแล้ว กลิ่นนั้นจะสามารถติดจมูกของคุณจนอาจทำให้เมื่อได้กลิ่นนั้นอีกเมื่อไหร่ก็จะสามารถนึกถึงความทรงจำในตอนที่ได้กลิ่นนั้นๆ ได้เลย เพราะฉะนั้นเรื่องของกลิ่นภายในบ้านของเรานั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้เลย เพราะถ้าบ้านมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์แล้ว อาจจะไม่ใช่แค่ก่อให้เกิดความรำคาญในการอยู่อาศัย แต่อาจเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมายอย่างเรื่องของโรคภูมิแพ้ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขลักษณะที่ดีของผู้อยู่อาศัยในบ้านด้วย
วันนี้ NAPA ขอเสนอ 4 วิธีง่ายๆ ด้วยวิธีการจำกัดกลิ่นที่จะช่วยให้ห้องครัวกลับมาหอมสดชื่น
1. ดูแลความสะอาดถังขยะอย่างสม่ำเสมอ
ถังขยะภายในบ้านถือว่าเป็นจุดสำคัญเลยที่ก่อให้เกิดกลิ่นได้ โดยเฉพาะขยะในห้องครัวนั้น เป็นแหล่งต้นกำเนิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์สารพัด ไม่ว่าจะเศษเนื้อหมู ผัก และของสดหลายๆ อย่างล้วนแล้วแต่เข้าไปหมักหมมอยู่ในถังขยะ หากไม่ดูแลมัดปากถุงและหมั่นทิ้งเป็นประจำรับรองว่าได้กลิ่นตลบอบอวนของเหล่าของสดและเศษอาหารที่เน่าเสียปนกันแน่นอน นอกจากนี้ควรหาถังขยะที่ปิดมิดชิดก็ช่วยแก้ปัญหาเรื่องของกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
2. ทำความสะอาดซิ้งค์ล้างจานให้สะอาดทุกครั้งหลังการใช้งาน
อีกสถานที่หนึ่งที่เป็นที่รวมของเศษอาหารนั่นก็คือซิ้งค์ล้างจาน เพราะฉะนั้นก่อนการล้างจานควรทิ้งเศษอาหารให้เรียบร้อยก่อนที่ทำการล้าง เพื่อป้องกันเศษอาหารตกค้างก่อให้เกิดกลิ่นมาตามท่อ และหลังล้างจานเสร็จก็ควรเก็บกวาดเศษอาหารให้หมด รวมทั้งเช็ดบริเวณโดยรอบให้แห้งเพื่อป้องกันกลิ่นอับชื้น หากเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้วล่ะก็ลองใช้เบกกิ้งโซดาโรยลงไปในท่อทิ้งไว้ 5 นาที จากนั้นราดน้ำส้มสายชูตามลงไปในปริมาณที่เท่ากันก็จะช่วยให้ปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์หมดไป
3. หมั่นทำความสะอาดตู้เย็น
4. เก็บเครื่องปรุงและเครื่องเทศ ส่วนผสมต่างๆ ให้เป็นที่เป็นทาง สำหรับแม่บ้านที่ชอบทำกับข้าวอย่างเราก็จะมีเครื่องปรุงและเครื่องเทศต่างๆ สะสมเอาไว้สารพัด เพื่อไว้เผยทีเด็ดเวลาทำอาหาร ซึ่งบางครั้งลืมไปเลยว่าการเก็บเจ้าเหล่าเครื่องเทศอย่างไม่ถูกต้อง ก็อาจจะก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นจึงควรหาขวดโหลหรือกล่องเพื่อจัดเก็บเครื่องปรุงต่างๆ ปิดให้มิดชิดเพื่อป้องกันกลิ่นออกมารบกวนห้องครัวของคุณ และยังทำให้หยิบใช้ได้สะดวก เก็บได้เป็นที่เป็นทางอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก sanook.com
